Last updated: 5 พ.ย. 2567 | 5093 จำนวนผู้เข้าชม |
สาเหตุ
มีการบิดหมุนของเข่าอย่างรุนแรง จนทำให้เส้นเอ็นไขว้หน้าฉีกขาด
พบบ่อยในกีฬาฟุตบอล, บาสเก็ตบอล และแบดมินตัน
อาการ
มีอาการปวดเข่ารุนแรงทันที ไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้
เข่าบวมจากการมีเลือดออกในเข่า เนื่องจากเอ็นไขว้หน้าขาด
จะเดินกระเผลกและไม่สามารถงอเข่าได้อยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากเอ็นไขว้หน้าขาด
หลังจากนั้นผู้ป่วยจะรู้สึกว่ามีอาการเข่าหลวม หรือ เข่าทรุด เวลากระโดด วิ่ง หรือวิ่งกลับตัว
ไม่สามารถวิ่งกลับตัวได้เนื่องจากเอ็นไขว้หน้าจะทำหน้าที่ยึดข้อเข่าให้มั่นคง เมื่อเอ็นไขว้หน้าขาดไปแล้ว เข่าจะเสียความมั่นคงไปอย่างมาก ผู้ป่วยที่เอ็นไขว้หน้าขาดจะไม่สามารถกลับไปเล่นกีฬาประเภทฟุตบอลหรือบาสเก็ตบอลได้
กล้ามเนื้อต้นขาจะลีบและอ่อนแรง
การดำเนินโรค
เส้นเอ็นไขว้หน้าที่ขาด จะไม่สมานกันเองตามธรรมชาติและไม่สามารถเย็บซ่อมได้
กรณีที่ผู้ป่วยฝืนเล่นกีฬาและมีการบาดเจ็บซ้ำ จะทำให้หมอนรองเข่าฉีกขาดตามมา
และมีกระดูกอ่อนบาดเจ็บ ส่งผลให้เกิดข้อเสื่อมได้
ผู้ป่วยที่ต้องการกลับไปเล่นกีฬา ควรรับการผ่าตัดส่องกล้องสร้างเอ็นไขว้หน้าใหม่
การรักษา
ผ่าตัดส่องกล้องสร้างเอ็นไขว้หน้าใหม่ (ACL reconstruction) โดยทำการย้ายเส้นเอ็นหลังต้นขา (Hamstring) มาทำเป็นเส้นเอ็นไขว้หน้าอันใหม่โดยใช้สกรูชนิดพิเศษยึดเอ็นเข้ากับกระดูก
การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าเป็นการผ่าตัดที่ใช้กล้องขนาดเล็ก 4 มิลลิเมตรและเครื่องมือพิเศษขนาดเล็กผ่านทางแผลเจาะรูที่เข่า 2 รู และมีแผลใต้เข่ายาวประมาณ 3 ซม.
ผลที่ได้รับจากการผ่าตัด คือ ข้อเข่าจะมีความมั่นคง แข็งแรงมากขึ้น
ผู้ป่วยสามารถวิ่งและกลับไปเล่นกีฬาได้เหมือนก่อนมีการบาดเจ็บ
ป้องกันการบาดเจ็บต่อหมอนรองเข่าและกระดูกอ่อนในอนาคต
ผลของการรักษา ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดเป็นสำคัญ โดยทั่วไปจะพบภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้ เช่น เส้นเอ็นใหม่วางในตำแหน่งที่ไม่ดี หรือ มีการติดเชื้อหลังผ่าตัด
โดยทั่วไปผู้ป่วยควรจะกลับไปเล่นกีฬาได้ ในระยะเวลา 9 เดือนหลังผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม การทำกายภาพบำบัดเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบเข่า ก็เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน
นพ.ไตร พรหมแสง
ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ด้านการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า
24 มี.ค. 2561